เชฟอ้อย

สรุปดราม่า "ลูกชิ้นเชฟอ้อย" โต้กันเดือด ไม่มีใครยอมใคร

ปัญหาเดือด เหมือนน้ำซุปในหม้อก๋วยเตี๋ยวตอนนี้ คงจะหนีไม่พ้นเรื่องดราม่านี้ ‘ลูกชิ้นเชฟอ้อย’ ชาวเน็ตต่างให้ความสนใจกันมาก หลังมีผู้ซื้อแฟรนไชส์ ลูกชิ้นเชฟอ้อย – ยุวดี ชัยศิริพานิช เชฟชื่อดังจากรายการดังในทีวี เผยปัญหามากมายในการซื้อแฟรนไชส์ จนกลายเป็นกระแสในโซเชียล ก็มีประเด็นถกเถียงกัน เคยถูกพูดถึงกันมากหลังจากต่างฝ่ายต่างออกรายการ “โหนกระแส” โต้เถียงกันอย่างดุเดือด ไม่มีใครยอมใคร

เมื่อกลายเป็นประเด็นดราม่าร้อนที่มีการโต้ตอบกันไปมาในโซเชียลมีเดีย ขณะที่ชาวเน็ตก็เข้ามาแสดงความคิดเห็นต่อประเด็นร้อนดังกล่าวอย่างล้มหลาม จนทำให้วันที่ 11 ธันวาคมที่ผ่านมา “หนุ่ม – กรรชัย กำเนิดพลอย” ได้เชิญคู่กรณีทั้งสองฝ่ายมานั่งพูดคุยกัน ทั้งฝ่ายผู้เสียหาย ประกอบด้วย เล้ง, แมน, ฟลุ๊ค, เดียร์, และแอน และฝ่ายเชฟอ้อย ซึ่งมาพร้อมกันเชฟปู โดยมีไพศาล เรืองฤทธิ์ ทำหน้าที่เป็นทนายความคนกลาง

บางช่วงบางตอนของรายการกลายเป็นกระแสในโลกโซเชียลทันที โดยเฉพาะการโต้เถียงสุดเดือดระหว่างเชฟอ้อย และ “แมน” หนึ่งในผู้เสียหาย ที่เรื่องราวในมุมของตัวเองว่าได้รับอุปกรณ์ทำลูกชิ้นล่าช้าจนเสียโอกาส และแบกรับต้นทุนไม่ไหว จึงหันมาขายก๋วยเตี๋ยว แต่กลับโดนเชฟอ้อยด่า ซึ่งเขารับไม่ได้ ลั่นไม่เคยมีใครด่าตนแล้วหายไป วันนี้จึงขอด่ากลับบ้าง 

ด้านเชฟอ้อยก็โต้กลับว่าการขายก่วยเตี๋ยวของแมนทำให้คนเข้าใจผิด เนื่องจากลูกค้าจดจำว่าแมนขายลูกชิ้นของเชฟอ้อย และจัดร้านก๋วยเตี๋ยวเหมือนเชฟอ้อย ทั้งนี้ เชฟอ้อยยอมรับว่าได้ด่าและพูดจารุนแรงกับคู่กรณีจริง เนื่องจากไม่พอใจในหลายเรื่อง ทั้งเอารูปตัวเองไปวางกับลูกชิ้น 5 บาท และยังมีคนเอาสูตรของตัวเองไปดัดแปลง ซึ่งผิดสัญญา อย่างไรก็ตาม ในช่วงท้ายของรายการ เชฟอ้อยได้ยอมรับว่าตนไม่มีประสบการณ์ในการทำธุรกิจและธุรกิจลูกชิ้นก็เติบโตรวดเร็วชั่วข้ามคืน

สุดท้าย เชฟอ้อยระบุว่าไม่สามารถคืนแฟรนไชส์ได้ แต่สามารถขายต่อให้คนอื่นมาซื้อสิทธิ์ต่อได้ พร้อมขอโทษคู่กรณีเรื่องที่ตนพูดไม่ดี ซึ่งทางแมนก็ยอมรับคำขอโทษ และได้ขอโทษเชฟอ้อยเช่นกันที่ตนพูดจาก้าวร้าว

ทนายความชี้ว่าเหยื่อสามารถยื่นฟ้องคดีแพ่งได้

ทนายไพศาล ซึ่งมาช่วยเป็นทนายความคนกลางในรายการโหนกระแส ได้ชี้แจงเรื่องข้อกฎหมาย ระบุว่าทั้งหมดเข้าข่ายฟ้องร้องทางแพ่งได้ เนื่องจากเชฟอ้อยไม่ได้ปฏิบัติตามสัญญาและทำผิดเงื่อนไข ทั้งจัดส่งอุปกรณ์ล่าช้า ทำให้ผู้เสียหายเสียโอกาสทางธุรกิจ

ส่วนในกรณีที่เชฟอ้อยบอกว่าผู้เสียหายดเอาสูตรของตนไปดัดแปลงนั้น ในทางกฎหมายมองว่าสูตรอาหารเป็นการคุ้มครองการค้า เป็นความลับทางการค้าเท่านั้น แต่ไม่มีลิขสิทธิ์คุ้มครอง จึงสามารถคิดค้นได้ใหม่ ดัดแปลงได้ เว้นแต่ว่ามีคนใช้ชื่อและโลโก้ของเชฟอ้อยในการขาย จึงจะเป็นการทำผิด

ขอขอบคุณบทความจาก : เชฟอ้อย